เมนู

อังคีรสมหานาค มีพระชาติสูง ดังพระยาไกรสร ประทับนั่ง
ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ทรงตั้งเราไว้ในเอตทัคคสถาน.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระโสณโกฏิยเวสสเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้นด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบโสณโกฏิยเวสสเถราปทาน

42. อรรถกถาโสณโฬิวิสเถราปทาน


อปทานของท่านพระโสณโกฬิวิสเถระ มีคำเริ่มต้นว่า อโนม-
ทสฺสิสฺส มุนิโน
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
ได้สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาล
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า อโนมทัสสี บังเกิดในเรือนมีตระกูล
แห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เจริญด้วยบุตรและภรรยา สมบูรณ์ด้วยสมบัติ
ได้สร้างที่จงกรมอันงามเพื่อเป็นที่จงกรม ให้กระทำการฉาบโบกด้วย
ปูนขาว กระทำให้รุ่งเรืองเรียบราบดุจพื้นแว่น จัดแจงประทีป ธูป และ
ดอกไม้เป็นต้น มอบถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า บูชาภิกษุสงฆ์มีพระ-
พุทธเจ้าเป็นประธานด้วยอาหารอันประณีต. ท่านบำเพ็ญบุญจนตลอด
ชีวิตด้วยอาการอย่างนี้ จุติจากอัตภาพนั้นแล้วบังเกิดในเทวโลก. ท่าน
เสวยทิพยสมบัติ โดยนัยที่กล่าวแล้วในพระบาลีนั้น เป็นผู้ขวนขวายใน

ตระกูลที่ปฏิสนธิในระหว่าง เพราะฉะนั้น เรื่องทั้งหมดนั้น พึงทราบโดย
กระแสที่กล่าวแล้วในพระบาลี. [ก็ในภพสุดท้ายท่านเกิดในโกลิยราชวงศ์
เจริญวัยแล้วปรากฏนามว่าโกฏิกัณณะ และว่ากุฏิกัณณะ เพราะทรงไว้ซึ่ง
เครื่องประดับหู มีค่าประมาณโกฏิหนึ่ง.]1 ท่านเลื่อมใสในพระผู้พระ-
มีภาคเจ้าฟังธรรมได้ศรัทธาแล้ว บวชแล้ว เจริญวิปัสสนาไม่นานก็บรรลุ
พรอรหัต.
ท่านได้เป็นพระอรหันต์แล้ว ระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิด
โสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า อโนม-
ทสฺสิสฺส มุนิโน
ดังนี้.บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อโนมทสฺสิสฺส ความว่า
การเห็นอันไม่ทราม ไม่ลามก คือดี ได้แก่พระสรีระ อันเป็นทัสสนียะ
เพราะประดับด้วยมหาปุริสลักษณะ 32 และเพราะงดงามด้วยมณฑลแห่ง
พระรัศมีด้านละวา ของพระผู้มีพระภาคเจ้าใดมีอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
ทรงพระนามว่า อโนมทีสสี อธิบายว่า แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า
อโนมทัสสีนั้น. บทว่า ตาทิโน ความว่า ผู้มีความไม่หวั่นไหวในอิฏฐารมณ์
และอนิฏฐารมณ์ บทว่า สุธาย เลปนํ กตฺวา ความว่า กระทำที่จงกรม
ฉาบด้วยปูนขาว และประดับด้วยประทีปธูปดอกไม้ธงชัยและธงแผ่นผ้า
เป็นต้น. เนื้อความแห่งคาถาที่เหลือ มีเนื้อความรู้ได้ง่ายตามกระแส
แห่งพระบาลีทีเดียว. ชื่อว่า ยโสธระ เพราะทรงไว้ซึ่งยศ กล่าวคือ
บริวารสมบัติ และทรัพย์สมบัติ, เชื่อมความว่า พระราชาทั้งหมดนั้น คือ
พระราชาผู้จักรพรรดิทั้ง 77 พระองค์ มีพระนามเป็นอย่างเดียวกัน
ว่า ยโสธระ.
1. ข้อความในวงเล็บไม่ควรมี เพราะพระเถระองค์นี้เป็นคนละองค์กับพระโสณโกฏิกัณณะ
หรือโสณกฏิกัณณะ.

บทว่า องฺคีรโส ความว่า รัศมีอันมีอันซ่านออกจากอวัยวะ คือจาก
พระสรีระ ของพระพุทธเจ้าพระองค์ใด พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ชื่อว่า
อังคีรส. ชื่อว่า นาคะ เพราะไม่ไปอบายทั้ง 4 ด้วยฉันทาคติ โทสาคติ
โมหาคติ และภยาคติ หรือด้วยสามารถแห่งบาปสมาจาร. ชื่อว่า มหนาคะ
เพราะอันเขาบูชาใหญ่ และเป็นผู้ประเสริฐ คำที่เหลือมีอรรถง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาโสณโกฬิวิสเถราปทาน

ภัททิยากาฬิโคธายปุตตเถราปทานที่ 3 (43)

1

ว่าด้วยผลแห่งการถวายอาสนะทอง


[45] หมู่ชนทั้งปวงเข้าไปเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า พระนามว่า
ปทุมุตตระ. ทรงมีจิตเมตตา เป็นมหามุนีอัครนายกของโลก
ทั้งปวง ชนทั้งปวงย่อมถวายอามิส คือ สัตตุก้อน สัตตุผง
น้ำและข้าวแด่พระศาสดา และในสงฆ์ผู้เป็นนาบุญ ไม่มี
นาบุญอื่นยิ่งกว่า.

แม้เราก็จักนิมนต์พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด และสงฆ์ผู้
ยอดเยี่ยม แล้วจักถวายทานแด่พระผู้พระภาคเจ้าผู้ประเสริฐ
กว่าเทวดา ผู้คงที่ คนเหล่านี้ เราส่งไปให้นิมนต์พระตถาคต
และภิกษุสงฆ์ทั้งสิ้นผู้เป็นนาบุญ ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งว่า.

บัลลังก์ทอง 1 แสน ลาดด้วยเครื่องลาดวิเศษมีขนยาว
ด้วยเครื่องลาดยัดนุ่น เครื่องลาดมีรูปดอกไม้ ผ้าเปลือกไม้
และผ้าฝ้าย.

เราได้ให้จัดตั้งอาสนะอันควรค่ามาก สมควรแก่พระ-
พุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ทรงรู้แจ้งโลก
ประเสริฐกว่าเทวาดา ผู้องอาจกว่าพระแวดล้อม ภิกษุสงฆ์
เสด็จเข้าสู่ประตูบ้านเรา.

เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ต้อนรับพระสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นนาถะของโลก ทรงมียศ แล้วนำเสด็จมาสู่เรือนของตน
เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส อังคาสภิกษุ 1 แสนและ
พระพุทธเจ้าผู้นายกของโลก ให้อิ่มหนำด้วยข้าวชั้นพิเศษ.

1. อรรถกถาว่า กาฬิโคธาปุตตภัททิยเถราปทาน.